ยุคนี้ไม่ว่าจะหันหน้าไปทางไหนเชื่อว่าทุกท่านก็คงจะได้ยินได้ฟังได้เห็นคำว่า AEC จากทุกทิศทุกทาง ไม่ว่าจะเป็นจากทางด้านสื่อต่าง ๆ แม้แต่เด็กนักเรียนที่โรงเรียนกลับมาบ้านก็ยังท่องกันจ๋อย ๆ แล้วคุณรู้กันหรือยังล่ะว่า AEC คืออะไร วันนี้ เราจะพาไปรู้จัก AEC ให้มากขึ้นกัน
AEC ย่อมากจาก ASEAN Economic Community แปลเป็นไทยได้ว่า ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน มีความเป็นมาจากการรวมตัวทางเศรษฐกิจของประเทศในอาเซียน 10 ประเทศ อันได้แก่ ไทย ลาว พม่า กัมพูชา เวียดนาม มาเลเซีย สิงคโปร์ บรูไน ฟิลิปปินส์ และอินโดนีเซีย เพื่อมีจุดประสงค์ให้กลุ่มประเทศเหล่านี้นั้นมีความเข้มแข็งทางเศรษฐกิจและด้านต่าง ๆ เพิ่มมากขึ้น โดยก่อตั้งอย่างเป็นทางการเมื่อปี 2015 และในอนาคตนั้นมีเป้าหมายที่จุดขยายกลุ่มประเทศสมาชิกเพิ่มขึ้นเพื่อความก้าวหน้าทางเศรษฐกิจ ที่เรียกว่า อาเซียน+3 โดยจะมีอีกสามประเทศมาเพิ่ม อันได้แก่ ญี่ปุ่น จีน และเกาหลีใต้ และมีเป้าหมายมากกว่านั้นคือ อาเซียน+6 โดยจะเพิ่มอีกหกประเทศ อันได้แก่ ญี่ปุ่น จีน เกาหลีใต้ อินเดีย ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ เพื่อเพิ่มความก้าวหน้าทางด้านต่าง ๆ ในกลุ่มทวีปเอเชียให้มั่นคงยิ่งขึ้นนั่นเอง
ข้อตกลงของกลุ่มประเทศสมาชิกอาเซียน
มีทั้งหมด 4 ข้อตกลงด้วยกัน ได้แก่
- มีฐานการผลิตและการตลาดที่เป็นอันหนึ่งอันเดียวหรือร่วมกัน (Single Market and Production Base)
- เพิ่มความสามารถในการแข่งขันทางเศรษฐกิจ (High Competitive Economic Region)
3. มีการพัฒนาทางเศรษฐกิจที่เท่าเทียมกัน (Equitable Economic Development) - ก้าวเข้าสู่เศรษฐกิจโลกได้อย่างครบวงจร (Fully Integrated into Global Economy)
ข้อสรุปสำหรับกรอบความร่วมมือ
- ทางด้านสินค้า จะมีการลดภาษีสินค้าที่เป็น Priority Sectors จนเป็น 0 เปอร์เซ็นต์
- ทางด้านบริการ จะเร่งเปิดเสรีทางด้านการบริการ ภายในปี 2010
- ทางด้านการลงทุน จะเร่งเปิดการลงทุนสำหรับสินค้าในรายการสงวนของทุกสมาชิกประเทศภายในปี 2015 และส่งเสริมทางด้านผลิตในประเทศอาเซียนให้มากขึ้น
- ทางด้านการค้า จะมีการอำนวยความสะดวกในการการค้ามากขึ้น เช่น การขนส่ง การท่องเที่ยว เป็นต้น
- ส่งเสริมความร่วมมือในด้านอื่น ๆ เพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อทุกประเทศ เช่น ทางด้านอุตสาหกรรม ทางด้านทรัพยาแรงงาน ทางด้านทรัพย์สินทางปัญญา เป็นต้น
นอกจากนั้นยังมีการเปิดเสรีทั้งทางด้านการค้าและการบริการ มีการแบ่งสายงานการผลิตสินค้าตามความสามารถและทรัพยากรของแต่ละประเทศ เพื่อจะได้ไม่ต้องแย่งส่วนแบ่งทางการตลาดกัน ทั้งหมด 11 สาขา โดยแบ่งให้แต่ละประเทศดังนี้
– ประเทศไทย สาขาการบินและสาขาการท่องเที่ยว
– ประเทศพม่า สาขาการประมงและสาขาผลิตภัณฑ์ทางการเกษตร
– ประเทศอินโดนีเซีย สาขาผลิตภัณฑ์จากไม้และสาขาสินค้ายานยนต์
– ประเทศฟิลิปปินส์ สาขาสินค้าด้านอิเล็กทรอนิกส์
– ประเทศมาเลเซีย สาขาสินค้าจากสิ่งทอและสาขาสินค้าผลิตภัณฑ์จากยาง
– ประเทศสิงคโปร์ สาขาสินค้าสุขภาพและสาขาเทคโนโลยีสารสนเทศ
– ประเทศเวียดนาม สาขาการขนส่งโลจิสติกส์
โดยข้อตกลงทางเศรษฐกิจข้างต้นจะเอื้ออำนวยความสะดวกต่อการดำเนินธุรกิจของประเทศสมาชิกทุก ๆ ประเทศ
เพื่อความเจริญก้าวหน้าและพัฒนาได้อย่างเต็มศักยภาพ